WeChat ID :
การทำสัญญาจะซื้อจะขายเป็นขั้นตอนสำคัญในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
โดยทั่วไปแล้ว สัญญาจะซื้อจะขายที่ดีควรมีรายละเอียดที่ชัดเจนและครอบคลุมประเด็นสำคัญต่างๆ ดังนี้
🔸 คู่สัญญา: ระบุชื่อ ที่อยู่ และรายละเอียดของทั้งผู้จะซื้อและผู้จะขายให้ชัดเจน
🔸 ทรัพย์สินที่จะซื้อจะขาย: ระบุรายละเอียดของทรัพย์สินนั้นๆ อย่างชัดเจน เช่น เลขที่โฉนด เลขที่ดิน เลขระวาง ตำบล อำเภอ จังหวัด และ ขนาดที่ดิน หากมีสิ่งปลูกสร้างต้องระบุ ประเภทสิ่งปลูกสร้าง ที่ตั้ง ขนาด ของสิ่งปลูกสร้างด้วยเสมอ
🔸 ราคาซื้อขาย: ระบุราคาซื้อขายทั้งหมด และเงื่อนไขการชำระเงิน เช่น งวดเงิน จำนวนเงินที่ชำระในแต่ละงวด และกำหนดเวลาในการชำระเงิน
🔸 กำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์: ระบุวันที่แน่นอนที่จะทำการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน
🔸 เงื่อนไขและข้อตกลงอื่นๆ: ระบุเงื่อนไขพิเศษอื่นๆ ที่ตกลงกัน เช่น เรื่องค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ, สภาพของทรัพย์สิน ณ วันส่งมอบ, หรือเงื่อนไขการผิดสัญญา
🔸 การผิดสัญญาและค่าเสียหาย: ระบุถึงกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา และกำหนดค่าเสียหายที่ต้องชดเชย
🔸 พยาน: โดยทั่วไปแล้ว สัญญาจะซื้อจะขายควรมีพยานอย่างน้อย 2 คนลงลายมือชื่อเพื่อเป็นหลักฐาน
🔸 ลายมือชื่อคู่สัญญา: ผู้จะซื้อและผู้จะขายจะต้องลงลายมือชื่อในสัญญาเพื่อแสดงเจตนาในการทำสัญญา
🆘 ข้อควรระวัง:
🔺 อ่านสัญญาอย่างละเอียด: ก่อนลงนามในสัญญา ควรอ่านทุกข้อความอย่างละเอียดถี่ถ้วน หากมีข้อสงสัยควรรีบสอบถามให้เข้าใจ
🔺 ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากเป็นสัญญาที่มีความซับซ้อน หรือมีมูลค่าสูง ควรปรึกษาทนายความเพื่อตรวจสอบและให้คำแนะนำ
🔺 เก็บสำเนาสัญญา: หลังจากลงนามแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายควรเก็บสำเนาสัญญาไว้กับตัวเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต
เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการทำสัญญาจะซื้อจะขาย การเลือกใช้นายหน้ามืออาชีพจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อให้การซื้อหรือขายทรัพย์สินของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ 😊
📌 ผู้เชี่ยวชาญงานขายอสังหาฯ | ลงทุนอสังหาฯ | สินเชื่อ | ผ่อนตรงบริษัท
📞 089-992-1885 | 088-141-1555
Line @bestproperty
FB: Best Property Center ผู้เชี่ยวชาญงานขายอสังหาริมทรัพย์